บททั่วไป

บริษัท ไทยเนสคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด  (รวมเรียกว่า “บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายและระเบียบในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้ (“ประกาศฯ”) เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“ท่าน”) ได้รับทราบแนวทางในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ก่อนหรือในขณะที่บริษัทฯ ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ในการนี้ บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจประกาศฯ ฉบับนี้ก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัทฯ หากท่านมีข้อกังวล ข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศฯ นี้ตลอดจนถึงประกาศและนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ตามช่องทางการติดต่อที่ปรากฏท้ายประกาศฯ ฉบับนี้

นิยามศัพท์

  1. “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎระเบียบ กฎเกณฑ์ ประกาศที่ออกภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจ ทั้งนี้ ยังให้หมายความรวมถึงกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นใดที่ต้องนำมาปรับใช้กับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

  1. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อาทิ ชื่อ-สกุล รายละเอียดสำหรับติดต่อ วันเดือนปีเกิด เป็นต้น แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  2. “ประมวลผล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล
  3. “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  4. “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวจะต้องไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  5. “ข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันกับที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ออกประกาศภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  6. “คุกกี้” หมายถึง ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ใช้จัดเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์ โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกบันทึกไว้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องมือสื่อสาร อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ เว็บบราวเซอร์ เป็นต้น
  7. บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม หมายถึง
    1. นิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีผู้ถือหุ้นจำนวนตั้งแต่ร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของนิติบุคคลหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นจำนวนตั้งแต่ร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในอีกนิติบุคคลหนึ่ง หรือ
    2. นิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีผู้ถือหุ้นในนิติบุคคลหนึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละ 25 ของทุนทั้งหมดของนิติบุคคลหนึ่ง ถือหุ้นที่มีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละ 25 ของทุนทั้งหมดในอีกนิติบุคคลหนึ่ง หรือ
    3. นิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีนิติบุคคลหนึ่งถือหุ้นที่มีมูลค่าตั้งแต่ร้อยละ 25 ของทุนของอีกนิติบุคคลหนึ่ง หรือ
    4. นิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นในชั้นแรกหรือชั้นต่อๆ ไปเป็นนิติบุคคลเดียวกัน โดยนิติบุคคลนั้นถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 25 ของแต่ละนิติบุคคล หรือ
    5. นิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีกรรมการหรือผู้มีอำนาจจัดการเกินกว่าร้อยละ 25 ของนิติบุคคลหนึ่ง เป็นกรรมการหรือเป็นผู้มีอำนาจจัดการเกินกว่าร้อยละ 25 ของอีกนิติบุคคลหนึ่ง

 หลักการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  1. หลักการพื้นฐาน
    • หลักการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย

      บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม โปร่งใส ภายใต้การรับรู้หรือความยินยอมจากท่านเท่านั้น ทั้งนี้ เว้นแต่จะมีกฎหมายให้อำนาจให้กระทำได้โดยไม่ต้องอาศัยความยินยอม

    • หลักการระบุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

      บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้กำหนดไว้ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

    • หลักการประมวลผลข้อมูลโดยจำกัด

      บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกใช้หรือเปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบแล้วนั้น เว้นแต่ได้รับการยินยอมจากท่าน หรือมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

    • หลักความถูกต้องแม่นยำ

      บริษัทฯ จะดำเนินการอย่างเหมาะสมในการตรวจสอบความเป็นปัจจุบันของข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายของวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ จะพิจารณาลบ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามวิธีการที่เหมาะสมต่อการบริหารจัดการข้อมูลนั้น ๆ

    • หลักการเก็บรักษาตามระยะเวลาเหมาะสม

      บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสม โดยจะพิจารณาถึงความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นสำคัญ

    • หลักความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทฯ มีมาตรการขั้นพื้นฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

    • หลักความรับผิดชอบ

      บริษัทฯ ได้จัดให้มีหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามหน้าที่และความรับผิดชอบภายใต้กรอบที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดำเนินการอย่างใด ๆ อันเกิดจากการสั่งการหรือกระทำการของผู้ซึ่งมีอำนาจกระทำการแทนบริษัทฯ หรือ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทฯ ภายใต้ขอบอำนาจและวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ กำหนดไว้

  2. แนวทางในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้ง เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่

    • ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
    • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย: เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    • ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต: เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
    • ฐานจดหมายเหตุ/วิจัย/สถิติ: เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ โดยบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    • ฐานภารกิจของรัฐ: เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมาย

    โดยทั่วไปแล้ว บริษัทฯ จะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อน เว้นแต่มีความจำเป็นหรือไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในการที่จะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อนเช่นว่านั้น และหากมีเหตุดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้ง ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อนนั้น ทั้งนี้ เว้นแต่จะมีข้อยกเว้นตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้อำนาจในการประมวลผลโดยไม่ต้องขอความยินยอม

    ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา การเข้ารับบริการ หรือดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทฯ ย่อมไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวข้างต้นให้แก่ท่านได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอที่จะสามารถนำมาประมวลผลได้อย่างเหมาะสม

 วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ โดยแยกเป็นประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังต่อไปนี้

ลูกค้า

บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรืออาจจะใช้สินค้าและ/หรือบริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใด เช่น ผู้เข้าร่วมสัมมนา กิจกรรม หรือร่วมประมูลงาน ผู้ขอรับข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ รวมถึงตัวแทนของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

วัตถุประสงค์ข้อมูลที่จัดเก็บ
เพื่อเข้าทำสัญญาและลงนามในสัญญา การปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้าง การชำระเงิน การตรวจสอบ การสอบทาน และการประเมินเพื่ออนุมัติเบิกจ่าย รวมถึง การออกเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเสร็จรับเงิน เป็นต้นชื่อ นามสกุล เพศ ตำแหน่ง เลขและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ศาสนา เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ที่อยู่ ข้อมูลติดต่อ หมายเลขบัญชีธนาคาร รหัสลูกค้า เป็นต้น
เพื่อเก็บเป็นข้อมูลอ้างอิงและหลักฐานการตรวจสอบการควบคุมภายใน หรือ อำนวยความสะดวกในการดำเนินงานภายในองค์กร เช่น บันทึกรายการลูกค้า เป็นต้นอาชีพ ตำแหน่ง หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์มือถือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ศาสนา/ปรัชญา รูปถ่าย ประวัติการศึกษา ประกาศนียบัตรบัณฑิต/ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เอกสารทางการศึกษาอื่น ๆ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการยื่น/นำส่งเอกสาร การตรวจสอบและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการกงสุล และสถานทูต กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กองการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจรวมถึงการออกเอกสารที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด หรือหน่วยงานนั้นๆ ร้องขอชื่อ ที่อยู่ ข้อมูลผู้เสียภาษี สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมายนั้นๆ เป็นต้น
เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการทำธุรกรรมเป็นไปตามนโยบายต่อต้านการติดสินบนและการทุจริต (ABC) และเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคำร้องคำนำหน้า ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขประจำตัวประชาชน เพศ อาชีพ ตำแหน่ง หมายเลขหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ศาสนา/ปรัชญา วันเกิด รหัสพนักงาน ที่อยู่ รูปถ่าย เป็นต้น
เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากลูกค้าโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้รับมาจากคู่ค้า/บุคคลที่สามมาใช้เพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการ เพื่อประกอบการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย การมอบของรางวัล โฆษณาและประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ หรือตามวัตถุประสงค์ที่คู่ค้าหรือบุคคลที่สามได้แจ้งไว้แก่ลูกค้าชื่อ นามสกุล รายละเอียดการติดต่อ ภาพถ่าย เป็นต้น
เพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากลูกค้าหรือข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้รับมาจากคู่ค้าให้แก่องค์กร หน่วยงาน บริษัท หรือบุคคลที่สาม ซึ่งเข้าร่วมทำสัญญาต่าง ๆ กับบริษัทฯ เช่น การเรียกร้องเอาแก่บริษัทประกัน เป็นต้นคำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด ลายเซ็น อีเมล เพศ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น
เพื่อใช้ประกอบการจัดกิจกรรม การมอบรางวัล และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการจัดเก็บหลักฐานที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมและมอบรางวัลดังกล่าวคำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เลขบัญชีธนาคาร ไลน์ส่วนตัว หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล บัญชีเฟสบุค ภาพถ่าย วิดีโอ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น
เพื่อศึกษาวิจัย ประเมินผล ฟังความคิดเห็น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytic) โดยจะนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการตลาดเว็บไซต์เครือข่ายสังคม (เช่น Facebook, Instagram, Line) เพศ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ข้อมูลทางพันธุกรรม ข้อมูลสุขภาพ ที่อยู่ ประวัติการศึกษา รูปถ่าย วันเกิด ส่วนสูง หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของค่าใช้จ่าย การชำระเงิน ระหว่างบริษัทฯ และลูกค้าชื่อ นามสกุล สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารข้อมูลติดต่อ อาทิ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
เพื่อการบริหารจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ การดำเนินต่อข้อร้องเรียน การตรวจสอบการทุจริต การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนและหรือการทุจริต การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การฟ้องร้องดำเนินคดีชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น

วิธีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  • การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

    บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลจากท่านโดยตรง อาทิ เก็บข้อมูลของท่านจากใบสมัครงานหรือจากกระบวนการรับสมัครเพื่อเข้าทำงาน โดยดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ในกรณีที่มีความจำเป็น บริษัทฯ จะทำการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชัดแจ้งก่อนหรือขณะที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

  • การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น

    บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากตัวท่านโดยตรง เช่น การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านระบบเว็บไซต์หรือช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ (LinkedIn, Facebook, Instagram เป็นต้น) การเก็บรวบรวมจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ไม่เกินสามสิบ (30) วันนับแต่วันที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น พร้อมทั้งขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งรายละเอียดต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามระยะเวลาอันสมควร เพื่อการปฏิบัติหน้าที่และการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้กำหนดขึ้น โดยระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีความแตกต่างกันตามประเภทของกิจกรรมและบริการ โดยมีระยะเวลาในการจัดเก็บ ดังต่อไปนี้

  • กรณีที่มีกฎหมายกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บไว้โดยเฉพาะ บริษัทฯ จะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามกรอบระยะเวลาดังกล่าว
  • กรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านตามความจำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ รวมถึงภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเช่นว่านั้น
  • ในกรณีการดำเนินการอย่างใด ๆ เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย บริษัทฯ อาจทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในระยะเวลายาวนานกว่ากรณีทั่วไป

ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาหรือหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะพิจารณาลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ด้วยวิธีการที่เหมาะสม

ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หากมีเหตุที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งหรือเชื่อโดยสุจริตได้ว่าท่านกระทำละเมิดข้อตกลงการใช้บริการของบริษัทฯ มีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย หรือเกิดข้อพิพาท และจำเป็นต้องมีการสืบสวน สอบสวน ตลอดจนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นจนกว่ากระบวนการนั้นจะเสร็จสิ้น หรือตามที่ระยะเวลาที่กฎหมายในเรื่องนั้นกำหนด

สถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางและวิธีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล การเข้าถึง การลบ ทำลาย ส่งต่อ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือจากบริษัทฯ ทั้งนี้ เฉพาะผู้ที่มีอำนาจตามที่บริษัทฯ หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้นที่จะมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือเข้าถึงสถานที่ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้

กรณีที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกให้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์และในนามของบริษัทฯ บริษัทฯ จะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าว เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อการอื่นใดที่ไม่เป็นไปตามขอบเขตการว่าจ้าง หรือขัดต่อกฎหมาย

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

เฉพาะบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่บริษัทฯ หรือ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ที่จะสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ได้ โดยบริษัทฯ จะกำหนดมาตรการการเข้าถึงและใช้ข้อมูลในแต่ละประเภท สถานการณ์ เหตุการณ์เฉพาะ หรือตำแหน่งที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายหรือละเมิดต่อสิทธิของท่าน

กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้ บริษัทฯ มีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามวัตถุประสงค์เดิมต่อไปได้ โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด

 การเปิดเผยและการโอนข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้วัตถุประสงค์ข้อ 4. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของท่าน เว้นแต่การเปิดเผยหรือโอนดังกล่าวจะได้กระทำภายใต้กรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้ให้สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทฯ อาจถูกเปิดเผยหรือโอนระหว่างบริษัทฯ (ตามรายชื่อที่ระบุในข้อ 1. ของประกาศฯ ฉบับนี้) รวมถึงการเปิดเผยหรือโอนให้แก่

  • บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม ของบริษัทฯ
  • บริษัทใหม่ที่เกิดจากการเข้าควบรวมกิจการหรือกิจการร่วมค้า หรือ บริษัทที่รับโอนกิจการจากบริษัทฯ
  • คู่สัญญา คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทจัดหางาน เป็นต้น
  • หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
  • ที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทฯ
  • หน่วยงาน หรือ องค์กรอื่นใดที่เกี่ยวข้องหรืออาจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ

การเปิดเผยและการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ จะถูกประมวลผลภายในประเทศไทยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็น บริษัทฯ จะทำการเปิดเผย โอน หรือ ส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลหรือหน่วยงานตามที่ระบุไว้ในข้อ 9. ซึ่งตั้งอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ภายใต้กรอบที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดไว้และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กล่าวไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ในกรณีดังกล่าวบริษัทฯ จะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน หรือเป็นการดำเนินการตามข้อยกเว้นที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลระบุให้สามารถกระทำได้ โดยไม่ต้องพิจารณามาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศนั้น เช่น การดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือ เพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เพื่อการทำสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือ เพื่อดำเนินภารกิจอันเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเปิดเผยหรือโอนไปยังต่างประเทศจะดำเนินการภายใต้มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม โดยท่านสามารถบังคับตามสิทธิที่ท่านมีอยู่ตามมาตรการนั้นได้ รวมถึงมีสิทธิได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการดังกล่าวข้างต้นให้เป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนระบบและกฎหมายของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจเป็นการโอนข้อมูลข้ามประเทศ บริษัทฯ จะตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลจะเป็นไปโดยปลอดภัย และผู้รับโอนที่อยู่ต่างประเทศมีมาตรการป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หรือขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่เป็นการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังเป็นประเทศที่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ รวมทั้งจะจัดทำสัญญากับบุคคลที่สามที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการโอน จัดเก็บ ใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนด

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)

    ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมอาจส่งผลต่อการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการเพิกถอนความยินยอม อย่างไรก็ดี การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล (Right to access)

    ท่านมีสิทธิในการเข้าถึง การรับสำเนา หรือ การให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ

  • สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction)

    ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบการใช้สิทธิคัดค้านของท่าน หรือ กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องถูกลบหรือทำลายเนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้กำหนดไว้ แต่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม การใช้สิทธิ หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  • สิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)

    ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านร้องขอจะต้องเป็นข้อมูลที่สามารถอ่าน หรือ ใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ซึ่งมีลักษณะการทำงานโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ท่านสามารถร้องขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือ อาจร้องขอให้บริษัทฯ รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ควบคุมส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ การดำเนินการเช่นว่านั้นจะต้องสามารถกระทำได้ในทางเทคนิค

  • สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)

    ท่านสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือ เป็นกรณีที่บริษัทฯ อาศัยฐานภารกิจของรัฐ ฐานประโยชน์อันชอบธรรม หรือฐานจดหมายเหตุ/ วิจัย/ สถิติ ในการประมวลผล

  • สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to be forgotten)

    หากท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกจัดเก็บโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ หมดความจำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือ ท่านได้เพิกถอนความยินยอมในการประมวลผล และบริษัทฯ ไม่มีอำนาจในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอีกต่อไป หรือ ท่านได้ทำการคัดค้านการประมวลผลในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกจัดเก็บเพื่อทำการตลาดแบบตรงหรืออาศัยฐานประโยชน์อันชอบธรรมหรือภารกิจของรัฐ ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

  • สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to rectify)

    ในกรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่สมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ ได้

  • สิทธิในการร้องเรียน (Right to lodge a complaint)

    หากท่านเห็นว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ทันที

ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว หรือมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของ บริษัทฯ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามข้อ 14. ของประกาศฯ ฉบับนี้ อย่างไรก็ดี ในบางกรณีบริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิข้างต้นได้ หากมีเหตุตามกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์หรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิหรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น

การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรการและการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าบริษัทฯ จะทำการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความปลอดภัยจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลงหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ โดยมีการกำหนดมาตรการและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะพนักงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบหรือมีความจำเป็นในการเข้าถึงและป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิ รวมไปถึงการจัดให้มีการทบทวนมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจัดให้มีขั้นตอนการดำเนินการหากมีการกระทำละเมิดของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

เนื่องจากเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไม่อาจกำหนดความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จะทำการพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ภายใต้ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เหมาะสม อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ หากท่านได้ดำเนินการส่งผ่านข้อมูลผ่านเครือข่ายสาธารณะ หรือเครือข่ายส่วนตัวที่ติดมัลแวร์ที่อาจทำให้ข้อมูลเกิดรั่วไหลได้

การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการปรับปรุงแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการปรับปรุงแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าว พร้อมกับเผยแพร่ประกาศฯ ฉบับปรับปรุงผ่านช่องทางที่เหมาะสม

การเข้าถึงข้อมูล การแก้ไข และการลบข้อมูลของคุณ

หากคุณต้องการทราบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เราเก็บไว้ คุณสามารถสอบถามและเราจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยสรุปของคุณให้คุณโดยไม่มีคิดใช้จ่าย หากพบว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้องหรือเก็บไว้โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายเราจะแก้ไขหรือลบมันออกไป หากคุณมีบัญชีการใช้งานในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของเราคุณสามารถอัปเดตข้อมูลของคุณได้ด้วยตนเอง

การขอให้ยุติใช้ข้อมูลของคุณ

คุณสามารถขอให้เราไม่นำข้อมูลของคุณไปใช้หรือหยุดนำไปใช้ในทางใดทางหนึ่ง เช่น นำไปสร้างโปรไฟล์ หรือแชร์กับโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม (ดู 3.4 ข้างต้น) หากคุณได้เคยให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลของคุณไว้ คุณสามารถถอนความยินยอมนั้นได้

คำถามและข้อร้องเรียน

หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับประกาศสิทธิความเป็นส่วนตัวนี้โปรดส่งอีเมลไปยัง  [email protected] หากคุณมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่เรานำข้อมูลของคุณไปใช้ หรือวิธีที่เราตอบกลับคำขอและคำถามของคุณที่เกี่ยวข้องกับสิทธิความเป็นส่วนตัว คุณสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลความเป็นส่วนตัว

เราตอบสนองต่อคำขอของคุณอย่างไร

เราอาจปฏิเสธคำขอ หากเราไม่สามารถตรวจสอบตัวตนของคุณ คำขอของคุณไม่มีเหตุผลหรือไม่มีความชัดเจน หรือคำขอของคุณอาจทำให้ข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นเสียหายหรือตกอยู่ในอันตราย โดยเราจะให้คำตอบกับคุณภายใน 30 วัน

ช่องทางการติดต่อร้านค้าในกรณีที่ลูกค้าต้องการลบ

แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ร้านค้าจัดเก็บ

หรือสอบถามเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว

Email : [email protected]

Call : 086-375-6660