สองสายพันธุ์ที่ทรงพลังจาก Terpene
เรามาทำความรู้จักสารพัดประโยชน์กับสองสายพันธุ์ที่ทรงพลังจาก Terpene ที่มีอยู่ในพืชกัญชากันดีกว่าว่า
กลุ่มสารเทอร์ปีน (Terpenes) จะหลั่งออกมาจากต่อมเดียวกันกับสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ซึ่งมีสารสำคัญ 2 ชนิดคือ THC, CBD ซึ่งสารเหล่านี้มีอยู่ในต้นกัญชา สารเทอร์ปีน (Terpene) จะให้กลิ่นเฉพาะซึ่งเป็นกลิ่นน้ำมันหอมระเหยสกัดที่มีในกัญชา ทำให้มีสีสันที่หลากหลายในเรื่องของกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่นเหมือนกับพืชตระกูล ส้ม เบอร์รี่ มิ้นต์ และสน ซึ่งไม่เหมือนกับพืชหรือไม้ดอกที่มีกลิ่นแรงชนิดอื่นๆ
สาร THC (delta-9-tetrahydrocannabinol) แตกต่างกับสาร CBD (cannabidiol) ที่การออฤทธิ์ต่อจิตประสาท แต่พบว่ามีประโยชน์ในการนำมาใช้ทางการแพทย์ในการบรรเทาอาการปวดได้อย่างดี ดังนั้นการใช้ฤทธิ์ของสาร THC ในการรักษาโรค จึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างกับสาร CBD (cannabidiol) ที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท แต่มีฤทธิ์ในทางการแพทย์ด้วยเช่นกัน ได้แก่ บรรเทาอาการลมชัก ต้านการอักเสบ เป็นต้น
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาสายพันธุ์กัญชาส่วนใหญ่ได้รับการต่อผสมพันธุ์ให้มีระดับสาร THC ที่สูงและเป็นผลทำให้สาร cannabinoids ชนิดอื่นในต้นกัญชา เช่น สาร CBD ลดจำนวนลง สิ่งนี้ทำให้หลายคนเชื่อว่าสารเทอร์ปีน (terpene) มีบทบาทสำคัญในการแยกแยะผลกระทบของสายพันธุ์กัญชาต่างๆ
สารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid)เช่น THC และ CBD จะถูกผลิตขึ้นในต่อมเรซินของกัญชา ซึ่งเรียกว่า ไตรโคม Trichome พบอยู่บนผิวทุกส่วนของกัญชา แต่จะพบว่าอยู่หนาแน่นที่สุดบริเวณช่อดอกเพศเมียที่ยังไม่ได้ผสมพันธุ์ ในทางการแพทย์จึงให้ความสำคัญต่อการเก็บเกี่ยว ช่อดอกกัญชาเพศเมียเพื่อให้ได้ปริมาณสารสำคัญจำนวนมากในการนำมาผลิตเป็นยารักษาโรคทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
และนอกจากนี้ THC ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการนำมาใช้เพื่อผ่อนคลาย ส่งเสริมสุขภาพภาวะการนอนหลับ แต่สารชนิดนี้ก็ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์ ต่อสุขภาพของผู้ใช้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น
-บรรเทาอาการข้างเคียงของการทำคีโม รักษามะเร็ง -บรรเทาอาการภูมิแพ้
-เส้นเลือดตีบ -บรรเทาอาการเอชไอวี/เอดส์
-บรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง -บรรเทาอาการติดเชื้อหรืออักเสบ
-ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร เป็นต้น
แต่ในส่วนของ CBD ในวงการแพทย์มองว่าสารชนิดนี้เป็นที่น่าสนใจมากที่สุด โดยพบว่ามีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพอยู่หลายประการ เช่น
-บรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรังจากมะเร็ง -บรรเทาอาการลมบ้าหมู
-บรรเทาอาการของโรค ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง -บรรเทาอาการพาร์กินสัน (อาการสั่น)
-ลดปัญหาสิวและอาการผิวแห้ง -บรรเทาอาการซึมเศร้า
-บรรเทาอาการโรคเบาหวาน -บรรเทาอาการทางจิตเภทต่าง ๆ
-บรรเทาอาการลงแดงจากสารเสพติดอื่น ๆ -บรรเทาและป้องกันโรคหัวใจ เป็นต้น
ข้อดีข้อเสียของสาร THC และ CBD
ข้อดี THC
- THC ขึ้นชื่อเรื่องการนำมาใช้เพื่อผ่อนคลาย ส่งเสริมสุขภาวะการนอนหลับ
2.หากปริมาณ THC มากพอก็จะช่วยให้รสชาติอาหารดีขึ้น
ข้อดี CBD
1.องค์การอนามัยโลกได้เคยสรุปว่าสาร CBD สามารถใช้ได้ในปริมาณมากโดยแทบไม่มีผลข้างเคียง
2.ไม่มีความเสี่ยงจากผลกระทบต่อจิตประสาท
3.มีความปลอดภัย
4.ไม่มีรสและไม่มีกลิ่น
- CBD มีประโยชน์ในการต้านความกระวนกระวายที่เกิดจาก THC
ข้อเสีย THC
- อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโรคจิตเภท โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มี ปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีปัญหาโรคจิตในครอบครัว หรือพันธุกรรม ผู้ป่วยโณคจิตจากสารเสพติดและแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะชะลอการทำงานของสมองและทำให้สมองหยุดสร้างสารเคมีที่ทำให้รู้สึกดี และทำให้รู้สึกหงุดหงิดง่ายเวลาที่ไม่ได้ใช้
- มีผลต่อการพัฒนาในด้านลบของสมองที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ กัญชาจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาสมอง
4.ผลข้างเคียงของอย่างชัดเจน โดยอาการที่สามารถพบได้ มีตั้งแต่ อาการปากแห้ง กระหายน้ำ หัวใจเต้นเร็ว ตอบสนองช้า ตาแดง หรือความทรงจำลดลง ซึ่งเป็นผลของการได้รับ THC ที่มากเกินไป
ข้อเสีย CBD
1.ไม่ได้ให้ประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากพืชกัญชาทั้งหมด
2.ไม่ควรใช้สาร CBD ในผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้อยู่ระหว่างให้นมบุตร และผู้ป่วยจิตเวช
Product สามารถใส่สารตัวนี้ได้ในปริมาณเท่าไหร่ ที่ถูกกฎหมาย
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ ยกเว้นสารสกัดในพืชกัญชงและพืชกัญชา ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ได้แก่ แคนนาบิไดออล (CBD) บริสุทธิ์ และผลิตภัณฑ์ที่มี CBD เป็นส่วนประกอบหลัก และสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในสัดส่วนที่น้อยกว่าร้อยละ 0.2 (CBD บริสุทธิ์ และ THC ไม่เกิน 0.2% ) เหมือนที่ถูกกำหนดในหลายประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถนำสารสกัดเหล่านี้ไปใช้ในการผลิตอุตสาหกรรมประเภท เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และยา ได้นั่นเอง
Recent Comments